วันจันทร์, กรกฎาคม ๓๐, ๒๕๕๐

ฝ่าหลุนกง... เอามาให้อ่านเล่นๆ... [religious]



ไปอ่านเจอมา น่าสนใจดี เอามาให้อ่านกันครับ...

.

ปัญหา
ที่จีนยอมรับไม่ได้และจะต่อสู้จนถึงที่สุดในปัจจุบันนี้มี 4 เรื่อง คือ
เรื่องการเคลื่อนไหวแยกทิเบตของกลุ่มดาไลลามะ, เรื่องไต้หวัน,
เรื่องฝ่าหลุนกง และเรื่องแก้ปัญหาความยากจน

“ฝ่าหลุนต้าฝ่า” หรือที่เรียกกันว่า “ฝ่าหลุนกง” มีรากฐานมาจากการฝึก “ชี่กง” ของชาวจีน

เป็นการบำเพ็ญตนระดับสูง เพื่อบริหารจิตใจและร่างกาย ตามหลักคุณสมบัติพิเศษของจักรวาล ได้แก่ ความจริง (เจิน), ความ
เมตตา
(ซั่น) และความอดทน (เหยิ่น)
อาศัยการอ่านหนังสือและการฝึกกระบวนท่าอย่างสม่ำเสมอ
ผู้บำเพ็ญสามารถมุ่งมั่นที่จะเป็นคนดียิ่ง ๆ ขึ้น
โดยหล่อหลอมตัวเองเข้ากับคุณสมบัติพิเศษของจักรวาล 3 ข้อดังกล่าว

หลี่หงจื้อ หรือ “อาจารย์หลี่” เป็นเจ้าลัทธิ

จริง
ๆ แล้ว หลี่หงจื้อเป็นคนเหลวไหล
เพราะภายหลังเหตุการณ์ปฏิวัติวัฒนธรรมในจีนที่อ้างว่าสำเนาทะเบียนบ้านหายไป
เขาก็ได้ไปแจ้งวันเดือนปีเกิดใหม่ เป็นวันวิสาขบูชา
และอุปโลกน์ว่าตัวเองเป็นพระพุทธเจ้ากลับชาติมาเกิด

จากนั้นก็
พยายามตั้งตัวเป็นศาสดาและเผยแพร่หลักคำสอนด้วยวิชาฝ่าหลุนกงเมื่อปี 1992
โดยเปิดชั้นเรียนสอนเป็นเวลา 2 ปี
หลังจากนั้นก็มีการบอกเล่ากันปากต่อปากจนทำให้จำนวนผู้ฝึกเพิ่มขึ้นอย่าง
รวดเร็ว และเริ่มเผยแพร่ออกไปยังประเทศต่าง ๆ
โดยชาวจีนที่เดินทางไปทำธุรกิจหรือท่องเที่ยว
ทำให้ในปัจจุบันแพร่กระจายเข้าไปใน 40 ประเทศทั้งในเอเชีย ยุโรป
สหรัฐอเมริกา แคนาดา ออสเตรเลีย ฯลฯ รวมทั้งประเทศไทย
โดยผู้ฝึกสามารถฝึกผ่านหนังสือและวิดีโอเทปได้ด้วยตนเอง

หลัก
คำสอนดัดแปลงมาจากพระธรรมของพระพุทธเจ้า โดยมีเป้าหมายอยู่ที่การบรรลุธรรม
แต่ได้เปลี่ยนวิธีการ หลักเกณฑ์ และกระบวนการใหม่ทั้งหมด
โดยระบุว่าผู้ฝึกสามารถบรรลุธรรมด้วยการฝึกท่ารำฝ่าหลุนกง และหากฝึกไปนาน
ๆ ผู้ฝึกก็จะกลายเป็นเทพ

คล้าย ๆ พวกลัทธิ “พระศรีอาริย์ทรงเครื่อง” ในบ้านเรายามนี้ที่ใช้การเต้นรำ (ดิ้น) เป็นการสะสมบุญ !


ใน
ชั้นนี้จะเห็นว่า ฝ่าหลุนกงเป็นขบวนการหลอกลวงต้มตุ๋นครั้งใหญ่
และอันตรายต่อมนุษยชาติ
นอกจากบิดเบือนประวัติศาสตร์และพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าแล้ว
ยังทำให้คนจีนต้องตายไปเป็นจำนวนไม่น้อย
เพราะเชื่อว่ารำฝ่าหลุนกงแล้วหายจากโรคภัยไข้เจ็บ จึงไม่ไปหาหมอ
รักษาโรคตามอาการ หรือไปเมื่อสายเกินรักษา

มีหลักฐานแสดงว่า
ระหว่างเดือนพฤษภาคม 1992 ถึงปลายปี 1994 หลี่หงจื้อจัดฝึกวิชาฝ่าหลุนกง
56 รุ่น เก็บเงินได้กว่า 3 ล้านหยวน และขายหนังสือ วีดิโอเทป ได้กำไรถึง
3,886 ล้านหยวน

แล้วขนเงินจำนวนหนึ่งไปซื้อกรีนการ์ด บ้าน และรถยนต์ในสหรัฐอเมริกา !

หลี่หงจื้อไปพำนักในนิวยอร์กตั้งแต่ปี 1995


นัก
วิชาการทางด้านจีนศึกษามีความเห็นตรงกัน
ถึงสาเหตุหลักการแพร่กระจายอย่างรวดเร็วในสังคมจีนว่า
มาจากทัศนคติและความเชื่อในศาสนาของชาวจีนนั่นเอง

แม้ว่าศาสนา
หลักในประเทศจีนจะมีอยู่ 4 ศาสนา คือ พุทธ อิสลาม คริสต์ และเต๋า
ซึ่งมีศาสนสถาน กิจกรรมทางศาสนา
แต่ความเชื่อที่มีอิทธิพลมากที่สุดยังคงเป็นขงจื๊อ

ในบรรดาประชา
กรจีน 1,100 ล้านคนนั้น ผู้ที่เป็นศาสนิกชนมีประมาณ 100 ล้านคน อีกประมาณ
50 ล้านคนเป็นผู้ที่เชื่อในปรัชญาลัทธิมาร์กซ์เลนินของพรรคคอมมิวนิสต์
นอกนั้นคือผู้ที่บอกไม่ได้ว่านับถือศาสนาอะไร
เพราะเป็นพวกที่เชื่อคำสอนของขงจื๊อ

มองในมุมหนึ่งแล้วเป็นเรื่องของความอ่อนแอทางจิตวิญญาณ

สังคม
จีนลงรากลึกในคำสอนของขงจื้อมานาน แต่ขงจื๊อก็ไม่ใช่ศาสนา
ผู้คนจึงไม่มีหลักยึดอะไรชัดเจนผ่านพิธีกรรม
และวัตรปฏิบัติเหมือนศาสนิกของแต่ละศาสนา
ความอ่อนแอทางจิตวิญญาณจึงเกิดขึ้น

เป็นช่องว่างให้ลัทธิกึ่งศาสนาใหม่ ๆ เกิดขึ้นมา

ฝ่าหลุนกงเป็นหนึ่งในจำนวนนั้น


ใน
ตอนต้น ทางการจีนไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ มากนัก
จนกระทั่งสาวกลัทธินี้ได้ออกมาเรียกร้อง
ให้รัฐบาลจีนรับรองว่าฝ่าหลุนกงเป็นศาสนาหนึ่ง
เมื่อรัฐบาลจีนไม่รับรองก็ก่อการประท้วงเกิดขึ้นเนือง ๆ ในช่วงปี 1997 –
1998 รัฐบาลจีนจึงเริ่มจับตามองความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด
และเริ่มเห็นว่าเป็นความเคลื่อนไหวทางการเมือง
ที่มุ่งสั่นคลอนเสถียรภาพของรัฐบาลจีน และพรรคคอมมิวนิสต์จีน
เพราะมีระบบการจัดตั้งที่รัดกุม และการดำเนินการไปในทางลับ
กระทั่งสามารถจัดการประท้วงโดยสาวกจำนวน 10,000 คนปิดล้อมจงหนานไห่
ที่พำนักและที่ทำการพรรคคอมมิวนิสต์จีน เมื่อเช้าวันที่ 25 เมษายน 1999

รัฐบาลจีนจึงถือว่าฝ่าหลุนกงเป็นขบวนการผิดกฎหมายอย่างเป็นทางการในปี 1999 นั้นเอง

และเริ่มดำเนินการปราบปราม

จน
ถึงปัจจุบัน รัฐบาลจีนเชื่อว่าขบวนการนี้มีเบื้องหลังทางการเมือง
ที่จะปลุกประชาชนจีนให้ลุกขึ้นมาต่อต้านรัฐบาลจีน และพรรคคอมมิวนิสต์จีน

รวมทั้งเชื่อว่าเป็นแผนการทำลายประเทศจีนของมหาอำนาจบางประเทศ

อย่าลืมนะครับว่าผู้นำขบวนการฝ่าหลุนกงปัจจุบันอยู่ในสหรัฐอเมริกา ได้รับการสนับสนุนจากบางองค์กรของสหรัฐอเมริกาและไต้หวัน


ขบวน
การฝ่าหลุนกงพยายามจะจัดการประชุมในประเทศไทยเมื่อวันที่ 21 – 22 เมษายน
2544 โชคดีที่ก่อนหน้านั้นในช่วงตรุษจีนของปี 2001 วันที่ 23 มกราคม
สาวกฝ่าหลุนกงในจีนจัดการประท้วงที่จตุรัสเทียนอันเหมิน แล้วเผาตัวตาย 4
คน แต่ตายจริงเพียง 1 คน
ทำให้รัฐบาลทั่วโลกจับตาและเห็นว่าเป็นขบวนการอันตราย

การประชุมในประเทศไทยจึงเลิกล้มไป !


พายัพ วนาสุวรรณ 4 เม.ย. 46

Politics - Manager Online

.

ก็เอามาเทียบเคียงกันนะครับ
ว่าทุกวันนี้ อะไรก็เชื่อยาก...

พิจารณาให้ดี แล้วค่อยเชื่อก็ยังไม่สาย...

Technorati Tags: , , , , , ,

๒ ความคิดเห็น:

paitoon suriyawongpaisal กล่าวว่า...

ข้อกล่าวหาต่ออาจารย์หลี่ หงจื้อ ทั้งหมดในบทความนี้ ล้วนมีที่มาจากสื่อของจีน ที่ถูกพรรคคอมมิวนิสต์ควบคุมอย่างเบ็ดเสร็จกว่า ครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา
หากใครได้อ่านรายงานการตรวจสอบเรื่องฝ่าหลุนกง ที่อดีตประธานสภาประชาชนจีน -นายเฉียว สือ เป็นผู้นำในการดำเนินการ ตามที่ได้รับข้อมูลกล่าวหาฝ่าหลุนกง และอาจารย์หลี่ นับตั้งแต่ปีค.ศ.1997เป็นต้นมา ซึ่งจากการตรวจสอบซึ่งกินเวลา 6 เดือนในค.ศ.1998 ได้ข้อสรุปว่า ข้อกล่าวทั้งหลายล้วนเป็นเท็จ ฝ่าหลุนกงไม่ได้มีพิษภัยใดๆต่อสังคมจีน มีแต่ประโยชน์ต่อมนุษย์
แต่รายงานนี้ไม่ได้รับการสนใจจาก อดีตผู้นำพรรคฯ -นายเจียง เจ๋อ หมิน ซึ่งมีใจคับแคบ ขี้อิจฉา จึงดันทุรังสั่งปราบปรามฝ่าหลุนกงในเดือน กค.1999 ท่ามกลางเสียงคัดค้านของคณะกรรมการกลางพรรคอีก 6 คน เพราะขัดกับรัฐธรรมนูญจีนมาตรา 35และ36 ที่รับรองสิทธิเสรีภาพในความเชื่อและการแสดงออกอย่างสันติของพลเมือง
หลักฐานสำคัญอีกอย่างที่ยืนยันถึงความบริสุทธิ์ของฝ่าหลุนกงคือ คำแถลงของอดีตนายกรัฐมนตรีจู หรง จี เมื่อวันที่ 25 เมย.1999 หลังจากที่ท่านได้อนุญาตให้ตัวแทนฝ่าหลุนกงเข้าพบอธิบาย เหตุการณ์ที่ฝ่าหลุนกงถูกทางการเมืองเทียนสินกลั่นแกล้งทำร้ายเมื่อเดือนสิงหาคม 1998 เนื้อหาของแถลงการณ์ซึ่งตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์เหรินหมิงยื่อเป้าเมื่อ 26 เมย.1999 มีความโดยย่อว่า รัฐบาลของนายกฯจู ขอให้ทางการเทียนสินปล่อยตัวผู้ฝึกฝ่าหลุนกงที่จับกุมไปทั้งหมดในทันที และรับรองสิทธิเสรีภาพในการฝึกและเผยแพร่สิ่งพิมพ์ของฝ่าหลุนกงตามเดิม
แต่เจียง เจ๋อหมิน ซึ่งกุมอำนาจทั้งในพรรค กองทัพและรัฐในฐานะประธานาธิบดี ก็ฝืนทำในสิ่งที่ละเมิดข้อตกลงข้างต้นของนายกฯจู
รายละเอียดนอกเหนือจากนี้หาอ่านได้ในwww.falunthai.org,www.faluninfo.net

Unknown กล่าวว่า...

ถ้ารัฐบาลจีนไม่ดูแลให้ดีล่ะก็แย่แน่ๆ ในอดีตก็มีลัทธิทำนองนี้ แล้วรัฐบาลชล่าใจ ปล่อยให้มีโอกาสเติบโตสุดท้ายก็กลับมาล้มล้างรัฐบาลและทำสงครามไปทั่ว สร้างความเสียหายมากมายนับไม่ถ้วน