วันเสาร์, พฤศจิกายน ๑๔, ๒๕๕๒

ปัญหาช่วงนี้...

ปัญหาคือ ไม่ใช่ว่าผมสามารถรับมือกับความทุกข์ได้

ปัญหาคือ ผมแค่โชคดีที่ได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่ค่อยมีสิ่งกระทบ

ปัญหาคือ นานๆ ผมจะเจอกระทบรุนแรงเสียที ซึ่งทำให้ผมตั้งตัวไม่ติด

ปัญหาคือ หลังจากเสียศูนย์ ผมจะตั้งตัวไม่ติดนานมาก เป็นวันๆเลย

และนั่นแหละ ยิ่งยืนยันว่า เราไม่เอาไหนในเชิงคุณภาพจิตขนาดไหน

สงสัยต้องเพิ่มสมถะให้มากกว่านี้ เพราะแทบจะไม่ทำเอาเสียเลย

วันเสาร์, ตุลาคม ๑๐, ๒๕๕๒

ปกติคุยกับแฟนแบบนี้?...

อย่างเช่น คำถามว่า "ถ้าคิดว่าเราไม่ดี ก็อย่าคุยกัน"  นี่ก็ถือว่าถามไม่ดี
ถามเพื่อวัตถุประสงค์ไม่ดี
ตอนถาม จิตใจจะแน่นๆ เพราะมันมีโทสะเจตนา
จิตใจมันไม่โปร่ง ไม่โล่ง ไม่สบาย
ถ้าอยากมีใจที่โปรง เบา สบาย ต้องรู้จักดูว่าใจตัวเองมีสองอย่าง
คือจิตที่มีโทสะ กับจิตที่ไม่มีโทสะ
มันอยู่เป็นคู่
ตอนมีก็รู้ ตอนไม่มีก็รู้
ถ้ารู้บ่อยๆ อีกหน่อย เราจะรู้ตัวได้ทันทีที่เริ่มคิดไม่ดี
เรียนธรรมคู่ เพื่อรู้ธรรมหนึ่ง
รู้ไปบ่อยๆ จิตจะไม่ลงไปคลุกเคล้ากับอารมณ์
อยู่เหนืออารมณ์
เพราะรู้ทันเสียแล้วว่าอารมณ์อะไรกำลังเกิด
เห็นมันเกิดขึ้น เห็นว่าเมื่อไม่เติมเชื้ออารมณ์ มันก็จะหายไป
เป็นไตรลักษณ์
มันเกิดเอง หายเอง
บังคับไม่ได้
มันโกรธเอง เราเป็นผู้ดู
มันหายโกรธเอง เราเป็นผู้ดู

วันพฤหัสบดี, ตุลาคม ๐๑, ๒๕๕๒

น้อยนัก...

ชาวโลกมีหลายพันล้าน ชาวพุทธมีนิดเดียว

ชาวพุทธมีหลายสิบล้าน ที่สนใจเข้าวัดมีนิดเดียว

คนที่สนใจเข้าวัด ที่สนใจปฏิบัติมีนิดเดียว

พวกที่ปฏิบัติแล้วเอาจริง คราวนี้นับตัวได้

- ลพ.ปราโมทย์ ปาโมชโช ณ สวนสันติธรรม 1/8/2551

วันอังคาร, กันยายน ๒๒, ๒๕๕๒

กลับมาฟังธรรม...

พักนี้รู้สึกห่างเหินธรรมไปเยอะ

จากเคยถือศีลเป็นบ้าเป็นบอได้เป็นปีๆ เหล้าไม่แตะ มดไม่ฆ่า
ทุกวันนี้ก็เริ่มย่อหย่อนกำลังใจ เหล้าก็กินบ้าง มดแมลงก็มีตัดใจฆ่าบ้างถ้าปัดไม่หมด

มาช่วงนี้เกิดมีกำลังใจกลับมาบ้าง
เลยหันมาฟังเสียงคำสอนของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช

โหลดไฟล์ใหม่ๆ ที่ไม่ได้ฟังมาเก็บเอาไว้เยอะ
พักนี้ทะยอยฟังไปวันละครึ่งชั่วโมงโดยประมาณ

พยายามกลับมาสำรวจกายใจให้มากขึ้น
แต่กำลังใจจะปฏิบัติในรูปแบบยังไม่มีมากนัก

ความก้าวหน้านับว่าน้อยมาก ถ้าเทียบกับช่วงแรกๆ

แต่ก็ยังดี ที่ยังได้กลับมาทบทวนอีกรอบ...

วันเสาร์, กุมภาพันธ์ ๒๑, ๒๕๕๒

สรุปเป้าหมาย...

เราไม่ได้ปฏิบัติเพื่อเอาอะไร แต่เราปฏิบัติเพื่อละความเห็นผิด...

ถ้ายิ่งปฏิบัติยิ่งเกิดมานะ เกิดอัตตา นั่นเรียกว่ามาผิดทาง ยังถูกครอบคลุมด้วยมิจฉาทิฏฐิ...

เราเห็นผิดมาตั้งแต่ต้น เราปฏิบัติทั้งหมดนี้ก็เพื่อละความเห็นผิดทั้งหลายนั้นเอง...

ซึ่งการละนั้นไม่สามารถทำได้จากการนึกๆคิดๆเอาว่าเห็น แต่ต้องทำเพื่อให้จิตเห็นแจ่มแจ้งด้วยจิตเองแล้วเท่านั้น...

เมื่อจิตแจ้งแล้ว จิตจะสละ จิตจะสำรอก ความเห็นผิดทั้งหลายทิ้ง คืนสู่ธรรมชาติ...

และเมื่อใด จิตเป็นอิสระจากความเห็นผิดทั้งปวง นั่นเรียกว่าจิตหลุดพ้น จิตเป็นนิพพาน...

วันพุธ, กุมภาพันธ์ ๑๑, ๒๕๕๒

ร่างกายนี้...

เมื่อเรากำเนิด ปฏิสนธิ อยู่ในมดลูก

เก้าเดือนที่เราค่อยๆ ก่อร่างสร้างร่างกายขึ้น
เราลอยอยู่ในถุงน้ำคร่ำ ที่ค่อยๆ ขยายขึ้นตามวันเวลา

น้ำคร่ำ ก็คือน้ำที่เก็บเอาของเสียทั้งหมดที่เราขับถ่ายทั้งหมดตลอด 9 เดือนเอาไว้
ก็นึกภาพไว้ว่าเรานอนหลับอยู่ในน้ำสิ่งปฏิกูลของเราเองนาน 9 เดือน

ทั้งเหม็นทั้งเน่าขนาดไหน ลองถามแม่เรา หรือหมอที่ทำคลอดได้
ถ้าอยากสัมผัสแบบเบาะๆ ลองไปนั่งใกล้ๆ หมาตอนคลอดลูก

กระแดะกันไปทำไม ในเมื่อทุกคนก็เกิดจากสิ่งสกปรกกองอาจมเหมือนกันทั้งนั้น

จะล้างจะขัดอย่างไร ก็ปฏิเสธความจริงว่าร่างกายนี้ปลดปล่อยสิ่งสกปรกออกมาตลอดเวลาไม่ได้

เวลานี้หอมหวนชวนดม
อีกไม่กี่ชั่วโมง ก็จะเริ่มมีกลิ่น เริ่มสกปรก จนต้องไปขัดล้างทำความสะอาด

ความสวยความงามที่สาวๆ บางคนมี ทำให้ผู้ชายแย่งกันเหมือนคนบ้าเพื่อให้ได้เชยชม
แต่หลังจากหมดชีวิตไปแค่ไม่กี่นาที

แม้แต่เศษเซลล์สักชิ้นเดียว ก็ไม่มีใครอยากเก็บไว้ดอมดม…

Technorati Tags: ,,,