พักหลังมานี้... จะว่านานก็นาน เพราะไม่แน่ชัดในกรอบเวลา
แต่คิดว่านานน่าจะราวปีถึงสองปี
ที่ผมไม่มีพัฒนาการอะไรเป็นชิ้นเป็นอันนักในการภาวนา
ที่รู้สึกได้ชัดคือ สามารถเข้าสู่ภาวะขณิกสมาธิแบบสมถะได้เร็ว
คือวื้บๆ เข้ามานิ่งๆ สงบๆ เบาๆ สบายๆ ได้ง่ายๆ แบบไม่ต้องพยายาม
บางจังหวะเร็วมาก แบบวางใจไว้แบบที่คุ้นเคย ก็วูบสงบเบาไปเฉยๆ
แต่ก็นั่นแหละ มันก็แค่สมถะ มันก็ทำให้สุขได้แบบชั่วคราว สั้นมากๆ
ผมจึงไม่อยากนับว่ามันดีหรือเป็นการพัฒนาอะไร
แต่ที่รู้สึกแน่ๆ คือสามารถจับเพ่งร่างกายได้ละเอียดมากขึ้น
โดยเฉพาะเท้า ที่ผมว่าถูกจริตมาก
เพราะผมสังเกตตัวเองมาตั้งแต่แรกแล้วว่า ผมเป็นคนถูกจริตกับการเดิน
เดินแล้วจิตสงบง่าย ไม่วอกแวกเหมือนกับเวลาพยายามนั่งเฉยๆ
เลยกลายเป็นว่าพักหลังเห็นร่างกายเดินชัดขึ้นเรื่อยๆ
เห็นแม้กระทั่งนิ้วเท้าแต่ละนิ้ว ว่าขณะเดินมันงอขึ้นหรือลงยังไง
เห็นร่างกาย ใบหน้า แขนขา ว่าขยับไปทางไหน
ซึ่งแน่นอนว่า มันยังคงอยู่แค่ระดับสมถะภาวนา
ถ้าบอกว่าติด ก็คงติดว่า ยังไม่สามารถยกระดับให้ขึ้นไปเห็นไตรลักษณ์
ซึ่งควรจะเป็นขั้นต่อไป ที่ควรจะทำได้ แต่ก็ยังทำไม่ได้
ถ้าให้เดา ก็คงเป็นเพราะขาดกำลังสมาธิในรูปแบบ
เพราะเป็นคนที่ขี้เกียจนั่งสมาธิมาก สวดมนต์ก็ไม่เอา
อาศัยแต่การสังเกตุดูจิต ดูกาย ตัวเองไปเรื่อยๆ ระหว่างวัน
แน่ล่ะ ว่าดูไปแบบขี้เกียจๆ ตามจริตนิสัยนั่นเอง
ตอนนี้เลยตั้งเป้าหลวมๆ ไว้ว่า อยากจะลองดูให้เห็นไตรลักษณ์
เห็นการดับของอารมณ์ต่างๆ ให้ได้เสียที
หลังจากเห็นแต่การเกิด แต่ก็ไม่เคยเทียบตอนดับ
พยายามทำให้เป็นธรรมชาติ เพราะกลัวว่าจะเป็นการเพ่งกด
หวังว่าในปีหน้า 2556 จะทำได้ดีขึ้นกว่าทุกวันนี้...
วันศุกร์, ธันวาคม ๒๘, ๒๕๕๕
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)