มาเขียน เพราะเห็นว่าวันนี้มีการเผยแพร่ blog ของท่าน jakrapnog เรื่อง ฝึกดูจิตด้วย twitter http://jakrapong.com/2009/10/18/follow-your-heart-twitter/ ซึ่งจากที่ได้อ่าน ดูว่าผู้เขียนยังเข้าใจคำว่า "ดูจิต" คลาดเคลื่อนไปพอสมควร
ประเด็นทีว่ารู้สึกอย่างไร ก็บันทึกลง twitter ไปนั้น เรียกว่าหลงไปเสียแล้ว
เพราะถ้ามีสติ ดูจิตที่มันเกิดขึ้น และเห็นมันดับลงไปแล้ว จะไม่ทันได้ควักมือถือออกจากกระเป๋าด้วยซ้ำไป
ถ้าจิตแช่ในอารมณ์นานพอจะทวิตข้อความได้ นั่นก็แสดงว่าต้องแช่อยู่ราว 5-10 วินาทีขึ้นไปทีเดียว
เรื่องบันทึกอารมณ์แต่ละวันแล้วย้อนกลับไปนั้น จะมีประโยชน์บ้าง ก็คงเป็นเรื่องเพื่อการสำนึกและปรับนิสัย
หากจะบอกว่ามีประโยชน์ใดๆ ต่อการฝึกสติหรือไม่ คงต้องตอบตรงไปตรงมาว่า "ไม่"
เพราะการฝึกสติ หรือดูจิตนั้น ต้องเป็นการดูใน "ปัจจุบันเท่านั้น"
และที่ยากยิ่งกว่าคือ "ไม่ส่งจิตออกนอก" ไม่ไปเที่ยวค้นคว้าเกาะเกี่ยวสิ่งนอกเหนือจากกายและใจตัวเอง
รวมถึง "ไม่ส่งจิตเข้าใจ" คือไม่วกกลับเข้ามาหมกมุ่นหลงแช่ในอารมณ์ความรู้สึกใดๆ ในใจตัวเอง
ตรงนี้แหละคือหลักสำคัญที่ต้องเข้าใจให้แม่นยำ เพื่อให้สามารถตรวจสอบการปฏิบัติของตวเองได้ว่ามาถูกทางหรือไม่
ถ้ามีอารมณ์อยู่นานจนพิมพ์ข้อความได้ หรือแม้แต่พูดได้ หรือแค่คิดจนจบประโยคบ่นได้ ก็นับได้ว่าหลงไปเสียแล้ว
สิ่งที่เกิดคือเห็นโทสะ (หรืออื่นๆ) เกิดขึ้นใจจิต เห็นว่ามันเกิดขึ้น เห็นมันอยู่ เห็นว่าพอเราไม่เติมอาหารคืออารมณ์ให้มันแล้ว มันก็ดับไปเอง โดยที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเราเลย เราไม่ใช่ผู้ที่ไปบังคับให้มันเกิดหรือมันดับ
มันเกิดเพราะมีเหตุให้เกิด มันดับเพราะหมดเหตุของมัน
อย่างนี้เอง จึงเรียกว่า เข้าใจกระบวนการดูจิต และเห็นจิตเป็นของไม่เที่ยง...
ไม่ขอเผยแพร่ในวงกว้าง เพราะเกรงจะสร้างศัตรูทางใจ แต่ขออธิบายไว้ เผื่อใครจะมีกรรมร่วมกันได้ผ่านมาอ่าน...
หากจะทำให้ใครขุ่นข้องหมองใจไปบ้าง ก็ขออภัย